ถึงเพื่อนๆและผู้สนับสนุนทุกท่าน,

จิตตืนทร์และเบลินด้าทานข้าวเที่ยงที่หมู่บ้านซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านภายใต้โครงการ SEECA

เมื่อเดือนตุลาคม คณะศึกษาดูงานจากโครงการวิจัยเพื่อฟื้นฟูป่าทางภาคตะวันตกของเราซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่เครือข่ายฯ เจ้าหน้าที่เขตฯ และชาวบ้านได้เดินทางไปเชียงใหม่เพื่อฝึกอบรมเป็นเวลา 5 วันเกี่ยวกับการทำวิจัยเพื่อฟื้นฟูป่ากับทีมงาน ของ FORRU ซึ่งเป็นโครงการแม่จาก ม.เชียงใหม่ ผู้เข้าอบรมได้รับประสบการณ์ตรงจากเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการซึ่งมีประสบการณ์หลายปีในการฟื้นฟูป่า การจัดการเรือนเพาะชำ การทดลองการเพาะเมล็ดและการนำความรู้ท้องถิ่นสู่การวิจัยเชิงปฏิบัติการ พวกเราได้ใช้เวลาร่วมกันกับชาวบ้านจากแม่สาใหม่ พูดคุย แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับวิถีชีวิตและการทำงานในภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศไทย

เมื่อเดือนธันวาคม ดร. สตีเฟ่น อีลเลียตและเจ้าหน้าที่สองคนจาก FORRU เชียงใหม่ ได้เดินทางมากาญจนบุรีเป็นเวลาห้าวันเพื่อฝึกอบรมเพิ่มเติมให้แก่ทีมงานโครงการฟื้นฟูป่าของเครือข่ายฯ จากหมู่บ้านแก่งปลากดและสลักพระ การฝึกอบรมในวันแรก ได้ทบทวนเกี่ยวกับงานในเรือนเพาะชำ ได้แก่ การสร้างเรือนเพาะชำ การเตรียมเมล็ด การย้ายกล้าลงถุงและวิธีการเพาะเมล็ด การออกแบบการทดลอง เส้นทางศึกษาชีพลัษณ์ (ขวามือ) ทีมงานฝึกอบรมรู้สึกประหลาดใจและประทับใจกับความคืบหน้าอย่างไม่น่าเชื่อของโครงการ ความสามารถในการดำเนินงาน ความกระตือรือร้นและความร่วมมือที่เห็นได้ชัดในทีมงานของกาญจนบุรี การฝึกอบรมครั้งนี้ได้เน้นที่การเก็บข้อมูล วิธีการบันทึกข้อมูลและการใช้ข้อมูลจากการศึกษาชีพลักษณ์ในการจัดทำตารางการเก็บเมล็ด

เมื่อเดือนพฤศจิกายน เครือข่ายอนุรักษ์ช้างได้ต้อนรับ นันดิต้า ฮาซาริก้าและเพื่อนร่วมงานอีกสี่คนจากองค์กร EcoSystems-India ซึ่งทำโครงการความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างในแคว้นอัสสัมของอินเดีย  พวกเขาต้องการดูว่าเครือข่ายอนุรักษ์ช้างได้ทำอะไรบ้างเพื่อช่วยชาวบ้านรับมือกับปัญหานี้ จิตตินทร์ได้พาพวกเขาไปพูดคุยกับชาวบ้าน (ขวามือ) ซึ่งได้ใช้วิธีการติดตั้งรั้วไฟฟ้าและคูป้องกันช้างซึ่งเป็นผลที่ได้จากการทดลองอย่างมีส่วนร่วมของพวกเรา  ทีมงานจากอินเดียได้เยี่ยมชมเรือนเพาะชำเพื่อการฟื้นฟูป่าของพวกเราด้วย  เราหวังว่าจะทำงานในเชิงความร่วมมือมากขึ้นกับองค์กรนี้เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี่ทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับชุมชนหมู่บ้านในพื้นที่

เมื่อเดือนธันวาคม เครือข่ายอนุรักษ์ช้างได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานประจำปี "รำลึกช้างเขาใหญ่" เป็นเวลา 5 วัน เพื่อรำลึกถึงช้างป่า 8 ตัวที่จมน้ำตกตายในปี 2534 ม่อนได้เข้าร่วมกิจกรรมกับนักวิจัยด้านสัตว์ป่า นักอนุรักษ์ ครูและผู้นำเยาวชนกว่าอีก 200 คน  งานนี้มีอดีตนายกรัฐมนตรีพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์เป็นประธานในพิธีเปิด งานนี้มีเป้าหมายเพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้ให้การศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม นักวิจัย และผู้จัดการโครงการได้มาแบ่งปันความคิดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านการอนุรักษ์อย่างมีประสิทธิภาพ   การนำเสนอของม่อนเกียวกับงานของเครือข่ายฯ ได้รับผลตอบรับที่ดีและหลายคนสนใจที่จะช่วยจัดกิจกรรมเพื่อฟื้นคืนชีวิตให้สลักพระ (Salakpra Revival Project ที่เราได้นำเสนอ รวมทั้งงานอื่นที่เกี่ยวข้องกัน

เมื่อเดือนธันวาคม เครือข่ายอนุรักษ์ช้างได้ร่วมจัดนิทรรศการสัปดาห์การอนุรักษ์สัตว์ป่าประจำปีของกรมอุทยานฯ ปีนี้มีแขกที่เป็นบุคคลสำคัญคือสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ซึ่งรับรู้กันดีถึงความสนใจของพระองค์ท่านที่มีต่อช้างและป่าไม้ เครือข่ายฯ ได้จัดบู๊ธให้น่าสนใจและมีข้อมูลที่เพียงพอในโปสเตอร์ซึ่งให้ข้อมูลกว้างๆ เกี่ยวกับการทำงานของพวกเราและจัดแสดงเมล็ด กล้าไม้และขี้ช้าง (ใช้ผสมดินในถุงปลูก) ลุงหวาน พี่พนอ ซึ่งรับผิดชอบเรือนเพาะชำที่สลักพระและแก่งปลากดได้เข้าร่วมออกบู๊ธครั้งนี้ด้วย บู๊ธที่มีสีสันสดใสของเราเตะตาผู้มาชมนิทรรศการจำนวนมาก แต่ด้วยเวลาที่จำกัด สมเด็จพระเทพฯไม่มีโอกาสได้แวะชมบู๊ธ โดยส่วนใหญ่ได้ทรงเยี่ยมชมบู๊ธของกรมอุทยานฯ 

เมื่อเดือนตุลาคม เครือข่ายอนุรักษ์ช้างได้ต้อนรับเจ้าหน้าที่ใหม่สองคน คืออรนุช (หนิง) สุขอินทร์ และอัญชลี (จอย) สพันธุพงศ์ ทั้งสองเป็นคนพื้นที่ แต่หนิงจบด้านเกษตรกรรม (พืชศาสตร์) จากแม่โจ้  ส่วนจอยนั้นจบวิทยาศาสตร์ (เอกเกษตรกรรม) จากมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี  หนิง (คนทางขวาในรูป) รับผิดชอบจัดการโครงการวิจัยการฟื้นฟูป่า-ภาคตะวันตก โดยมีจอยเป็นผู้ช่วย เมื่อถามทั้งสองคนว่าอะไรบ้างที่ชอบเกี่ยวกับงานที่ทำอยู่  หนิงตอบว่า "ชอบความหลากหลาย ได้ลงพื้นที่บ่อยๆ ทำงานร่วมกับคนหลายๆ กลุ่ม  ทำงานวิจัยทดลองต่างๆ เพื่อได้ความรู้ที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือได้" จอยเองได้กล่าวว่า "จอยรักธรรมชาติ ชอบทำงานกับคน และโครงการนี้มีค่ามากสำหรับชาวบ้าน"

เมื่อเดือนตุลาคม เบลินด้า ได้เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อวางแผนงานด้านการอนุรักษ์ช้างป่าเอเชีย  การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วม 70 คนจาก 13 ประเทศที่เป็นถิ่นอาศัยของช้างเอเชีย ผู้สนับสนุนเงินทุนและเอ็นจีโระดับนานาชาติ การจัดประชุมครั้งนี้ดำเนินการโดย ดร.ไซม่อน เฮดจ์ ซึ่งเป็นผู้ประสานงานด้านช้างเอเชียของสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) และเป็นประธานร่วมของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญช้างป่าเอเชีย (AsESG) โดยมีวัตถุประสงค์สองประการ คือ การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการกระจายของช้างเอเชียและภัยคุกคามต่างๆ ทีมีต่อช้างลงฐานข้อมูลเพียงหนึ่งเดียว และเพื่อร่างแผนปฏิบัติการและกลยุทธ์ด้านการอนุรักษ์ที่ระบุถึงพื้นที่ที่มีความสำคัญลำดับแรกเพื่อดำเนินการวิจัยและการอนุรักษ์ ก้าวต่อไปคือการร่างแผนปฏิบัติการของแต่ละประเทศ